A Chinese to Odyssey Part 2 : Cinderella

ไซอิ๋ว 95 เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน 2 : เพราะรัก จึงเจ็บปวด

ความสบายและก็ความทุกข์ทรมานได้ลอยกระจายกระจัดกระจายอยู่ในบรรยากาศของภาพยนตร์ไซอิ๋วภาคนี้ สุขผสมทุกข์นับว่าเป็นอีกระดับของอารมณ์ที่ไม่ใช่หนังทุกเรื่องจะสามารถถ่ายทอดกันออกมาได้อย่างง่ายๆการถ่ายทอดอารมณ์ที่มีความสลับซับซ้อนออกมาให้ผู้ชมได้สัมผัสได้แบบแบบนี้ถือได้ว่าเป็นการยกฐานะให้หนังแปลงเป็นผลงานที่มีคุณภาพ ผมไม่บางทีอาจบอกความหมายกับภาพยนตร์ภาคนี้ได้ด้วยคำว่า ‘ดี’ เนื่องจากว่ามันมีอะไรที่มากกว่านั้น เพียงพูดได้ว่าไซอิ๋วภาคนี้เป็นเลิศในหนังที่ผมชอบพอสูงที่สุด

เอางี้ .. คืืออยากให้ทุกคนเห็นภาพตาม เลยบางครั้งอาจจะให้รายละเอียดตรงรายละเอียดนิดเดียว .. อะ เริ่ม ..

ในตอนสุดท้ายของภาคแรกจุนเป่าได้ถูกพาย้อนมา 500 ปี รวมทั้งได้มองเห็นหน้าค่าตาของเธอ จื่อเสีย ที่แสดงนำโดย จูอิน ตบท้ายเอาไว้ มาในภาคนี้จื่อเสียก็คือจอมเทวดาสายสัมพันธ์คู่รักที่จริงจริงของจุนเป่า แล้วก็เป็นผู้ที่ทำให้จุนเป่าเปลี่ยนเป็นเห้งเจียอีกครั้ง

จื่อเสีย เป็นไส้ตะเกียงของพระยูไลที่แปลงตัวหนีลงมาหาคู่บนโลกมนุษย์ นางมีวรยุทธแล้วก็อำนาจศักดิ์สิทธิ์ มีฝีมือการต่อสู้ที่ร้ายกาจถึงขนาดต่อกรกับเหล่าเทพที่มาตามจับตามนางเอกได้สบายมือ การเล่นบทเป็นจื่อ เสียของจูอินทำให้นักแสดงตัวนี้ออกมามองเฉลี่ยวฉลาดฉลาด จื่อเสียเป็นหญิงสาวจอมสนุกสนานยียวน นางมากับรอยยิ้มที่เชื้อเชิญให้คลั่งไคล้ แถมยังน่ารักน่าเอ็นดูงามแจ่มใสทรมาทรกรรมจิตใจชาย ถึงแม้ผู้ใดกันพบก็ข่มใจไม่ไหวที่จะหลงใหลนางกำนัลโดยทันที เป็นรูปแบบของหญิงที่ทำให้มีอาการชายชาตรียินดีสร้างการทำศึกเพื่อแย่งนางมาครอง ที่สำคัญเป็นดวงตาของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมาด ความคาดหมายที่กำลังจะได้เจอรักกับเนื้อคู่ที่ตัวเองเฝ้าฝัน และก็เมื่อคุณได้ทราบว่าจุนเป่าเป็นเนื้อคู่ของคุณ คุณก็เลือกที่จะหลงเสน่ห์เค้าจากที่ชะตาชีวิตฟ้าลิขิตเอาไว้ ในจังหวะนี้การแสดงของจูอินทำให้พวกเราได้มีความคิดเห็นว่าในขณะที่หญิงมีความรัก เวลานั้นคุณจะมีพลังเพื่อประมือกับทุกทุกสิ่ง และไม่กลัวซึ่งความตาย ตามที่คุณได้กล่าวเอาไว้ว่า

“มนุษย์เรามีความรัก ถึงทราบว่าเป็นกองไฟก็ยังเดินเข้าไป”


จื่อเสียเป็นนักแสดงนางเอกที่พอดีแล้วก็เพอร์เฟ็คเอามากๆก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่จุนเป่าจะกล่าวว่า ‘คนแบบคุณหาได้ยาก’ เมื่อเมื่อที่เค้าจะต้องทุกข์ใจกับปัญหาที่ว่าตัวเองรักผู้ใดระหว่างจิงจิงกับจื่อเสีย

ย้ายมาดูมุมมองในภาคนี้ของจุนเป่ากันบ้าง…

จุนเป่ายังคงโง่เขลาเรื่องความรัก แม้การย้อนเวลาจะเกินเลยมาเป็น 500 ปีกลายหน้า แม้กระนั้นเค้ายังคงฝังใจกับภารกิจเดิมของตนอยู่ โน่นเป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลเธอจิงจิงกลับไปรวมทั้งทำให้นางสุขสบาย โดยเค้ามั่นใจว่าสิ่งที่เค้ามีต่อเธอจิงจิงนั้นอาจกล่าวได้ว่ามันเป็น ความรัก ถึงแม้ว่าจริงแล้วเค้าแทบจะไม่เคยทราบมันเลยด้วย ในระหว่างนั้นเรื่องราวก็กำเนิดความยุ่งเหยิงโกลาหลขึ้น เพราะเหตุว่าปีศาจร้ายวัวกระทิงปรารถนาจับตัวได้จื่อเสียไปเป็นศรีเมียน้อยของมัน

เรื่องราวการฉกฉวยยังคงเดินต่อไป กว่าที่จุนเป่าจะรู้สึกตัวว่าตัวเองรักผู้ใดเรื่องราวก็เดินทางมาเกินครึ่งนึงซะแล้ว จุนเป่าพาตนเองมานั่งครุ่นคิดพิจารณาอยู่ในถ้ำสายสัมพันธ์ว่าเค้าควรเลือกผู้ใดดี ระหว่างจิงจิงกับจื่อเสีย ณ ตอนนี้มี 2 เรื่องเกิดขึ้นพร้อมโน่นเป็น

จุนเป่าได้พบจิงจิงแล้วก็ขอจิงจิงสมรส (เนื่องจากว่ามั่นใจว่าการสมรสเป็นการจบภารกิจที่จะทำให้จิงจิงเป็นสุข ช่างเป็นความคิดของผู้ที่เซ่อเสียจริงๆ)
จื่อเสียแรงถูกอสุรกายวัวกระทิงจับเข้าพิธีสมรส (โดยนางไม่มีแววตาที่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย เนื่องจากว่านางมั่นใจว่าอย่างไรคู่รักของนางจำเป็นต้องขี่ก้อนเมฆเจ็ดสีกลับมาช่วยนางอย่างไม่ต้องสงสัย นี่ก็มั่นสุดๆ)

“ความรักคือเรื่องของธรรมชาติ ไม่ต้องคิด”


เพื่อนยาจกคนนึงได้กล่าวขึ้นภายหลังจากเขาเล่าให้จุนเป่าฟังว่าเมื่อคืนนี้จุนเป่านั้นละเมอเพ้อเจอเป็นชื่อของเพศหญิงที่ชื่อจื่อเสียตลอดทั้งคืน ถึงแม้ว่าตัวเองก็กำลังจะเข้าพิธีสมรสกับจิงจิง แต่งานแต่งนี้ก็มิได้เกิดขึ้นเนื่องจากจิงจิงทราบดีว่าเพศหญิงที่จุนเป่ารักที่จริงจริงนั้นเป็นคนใดกันคุณก็เลยหนีหายไป (จิงจิงเข้าไปใน ‘หัวใจ’ และก็มองเห็นชื่อของจื่อเสียสลักไว้) จุนเป่าเริ่มหมดหวังแล้วก็ไม่มีแนวทางสำหรับเพื่อการไปต่อ แถมกรุ๊ปเพื่อนยาจกที่พึ่งจะสนิทกันก็โดนอสุรกายแมงมุมฆ่าโดยไม่มีการโลเล ซึ่งจุดนี้จุนเป่าเริ่มปลงตกรวมทั้งคิดได้ถึงเหตุผลของการเดินทางย้อนเวลาคราวนี้ของเค้า

มาถึงจุดนี้เรื่องราวเริ่มไต่ระดับขึ้นอีกทีโดยการที่จินเป่าพอเข้าใจในความจริง การกลับชาติมากำเนิดในคราวนี้ทำให้เค้าได้ทำความเข้าใจถึง ‘ความรัก’ ‘ความแค้น’ ‘ความตาย’ ชีวิตเค้าได้ทำเรื่องไม่ถูกต่อคนอื่นไว้มากไม่น้อยเลยทีเดียวรวมทั้งผู้ที่เค้ารักเยอะที่สุด

“ก่อนหน้าเราเคยมีความรัก แม้กระนั้นไม่รู้ถนอมกล่อมเกลี้ยง

เมื่อเสียไปแล้วกลับเสียดาย โลกมนุษย์ช่างเจ็บยิ่งนัก”

นี่คือส่วนหนึ่งในประโยคอธิษฐานของจุนเป่าก่อนหน้าที่เค้าจะกลับเป็นเห้งเจีย ซึ่งคิดว่าเหตุผลหลักที่ทำเค้าตัดสินใจกลับเป็นเห้งเจียอีกครั้งคือ การปลงตกเรื่องสัจธรรมความรัก ตอนแรกผมคิดว่าเป็น ‘ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์’ ซึ่งมันไม่น่าจะตรงพอ เพราะอันที่จริงแล้วความรักก็เป็นสิ่งสวยงามแต่ ‘ยิ่งรักมาก ยิ่งเจ็บปวดมาก’ น่าจะเป็นสัจธรรมที่ตรงกับเนื้อเรื่องมากที่สุด แม้จะยังไม่ตรงกับไดอะล็อกของจุนเป่าเท่าไหร่ 

จุนเป่าไม่อยากมีความรักอีกต่อไป เพราะความรักทำให้เค้าพบกับความเจ็บปวดเสียใจ โดยที่ได้มงคลสวมหัวจากเจ้าแม่กวนอิมไว้เป็นเครื่องเตือนสติ ว่าหากยามใดที่เค้ามีความรัก ให้ระลึกไว้เสมอว่ามันจะทำให้เค้าเจ็บปวด

การกลับมาเป็นเห้งเจียผู้ทรงอิทธิฤทธิ์นั่นแปลว่าจุนเป่าได้หยุดความรักของตนไว้ที่แม่นางจื่อเสีย ทำให้เธอกลายเป็นความรักครั้งสุดท้ายของตน เค้าพร้อมที่จะละเรื่องทางโลก และไม่สามารถมีความรักได้อีกต่อไป ลืมอดีต ลบทุกอย่าง จะไม่มีผู้ชายที่ชื่อจุนเป่าอีกต่อไป

เมื่อเห้งเจียคืนชีพก็มาก็รีบไปช่วยเหลือพระถังซัมจั๋งที่โดนปีศาจกระทิงจับไว้ในทันใด แต่ไม่มีโศกนาฏกรรมไหนที่ไม่มีการสูญเสียเพราะจื่อเสียได้ถูกปีศาจกระทิงแทงตายอย่างต่อหน้าต่อตา เห้งเจียผู้ที่ไม่สามารถรักใครได้ถึงกับกรีดร้องและเริ่มมีอาการคลุ้มคลั่งที่ต้องสูญเสียคนรักของตัวเองไป จื่อเสีย ลมหายใจอ่อนลงเธอกล่าวถึงคนรักของเธออย่างภาคภูมิใจว่า

“ผู้ชายที่ข้ารัก ต้องเป็นคนองอาจ เค้าจะนั่งเมฆเจ็ดสีมารับข้าในงานวิวาห์ 

ข้าทายถูกตั้งแต่ตอนต้น แต่ข้าไม่คาดฝันว่าจะจบแบบนี้ “

ความรักของจื่อเสียช่างน่าเทิดทูน ลมหายใจของเธอสิ้นลง เห้งเจียร้องไห้เสียใจอย่างหนัก มงคลบีบรัดศีรษะจนดิ้นทุรนทุรายทำให้กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เค้าลงมือฆ่าปีศาจกระทิงด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความแค้น

ในฉากนี้การแสดงของทั้งจูอินและโจวซิงฉือทำออกมาได้อย่างซาบซึ้งกินใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการจากไปของจื่อเสียเป็นอะไรที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย บางทีเราอาจคิดว่าเราพร้อมที่จะบอกลาใครซักคน แต่มันต้องไม่ใช่เป็นแบบนี้ มันไม่ควรเป็นการจากลาที่ไม่มีวันได้หวนกลับมาแบบนี้ คนที่ตายไปแล้วต่อให้ตะโกนคำว่า ‘คิดถึง’ อีกกี่หมื่นกี่แสนครั้งก็ไม่อาจทำให้เราหายคิดถึงเค้าได้ ที่สำคัญคือเห้งเจียไม่สามารถแสดงความรักหรือเสียใจออกมาได้ อยากร้องไห้ให้อกแตกตายก็ยังไม่สามารถทำได้ มันคงเป็นการจากลาที่ ทรมาทรกรรมที่สุดในชีวิตของเค้าแล้ว

ในขณะที่กำลังซึมซาบบรรยากาศของการสูญเสียอย่างช้าๆ ก็เหมือนถูกตบหน้าให้หันมอง เมื่อกล่องแสงจันทร์ได้เปิดออกอีกครั้งแล้วนำพาคณะเดินทางสู่ชมพูทวีปท่องอนาคตไปอีก 500 ปีข้างหน้า เห้งเจี้ยและชาวคณะกลับมาอยู่ในถ้ำสายใยอีกครั้งนึง เรียกเอาคนดูปรับอารมณ์ตามกันแทบไม่ทัน

ถึงอย่างไรการกลับมาครั้งนี้ก็คุ้มค่าเพราะทำให้เห้งเจียได้พบกับ จื่อเสีย และ จุนเป่า ยืนทะเลาะกันอยู่กลางเมือง นี่คือโอกาสครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายที่เห้งเจียจะได้บอกลาแม่นางจื่อเสีย เค้าเลือกที่จะเข้ายึดร่างของจุนเป่าชั่วขณะเพียงเพื่อจะบอกความรู้สึกที่เค้าไม่สามารถแสดงออกมาได้ด้วยตัวเอง

“ข้าอยากบอกเจ้ามานานแล้ว ว่าข้ารักเจ้า”

เห้งเจียเก็บจุมพิตและกอดสุดท้ายของจื่อเสียเอาไว้ ก่อนเดินจากไปตลอดกาล
คะแนนความอิน : 9.0 / 10

– – – – ——————————————— – – – – 
*** ภาคสองนี่ความสนุกอยู่ที่การร้อยเรียงเนื้อหาสลับไปมา และตอบจบระดับตำนาน ซึ่งพอผมเขียนไปเขียนมามันดันกลายเป็นการเขียนบรรยายบทหนังไปซะอย่างงั้น ผู้อ่านสามารถ comment ด่าด้านล่างได้เลยครับว่า ‘มึงเขียนแบบนี้ ให้กูเปิดดูเองง่ายกว่า’ ***

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *